ธรรมมะเป็นเหมือนผ้าประเจียด




  เนื่องด้วยการบำเพ็ญกุศลในวันนี้ เป็นการบำเพ็ญกุศลเพื่อความยืดยาวของอายุ เป็นเหตุให้ระลึก

นึกถึงสิ่งซึ่งจะอำนวยให้สำเร็จตามความประสงค์นั้น ส่งที่จะอำนวยให้สำเร็จประโยชน์เช่นนี้ มิได้

มีสิ่งอื่นนอกจากธรรมะซึ่งเป็นเหมือนผ้าประเจียด


  ดังที่มีเรื่องเล่ากันไว้ในคัมภีร์ว่า เมื่อเทวดาตนหนึี่งเดือดร้อน เนื่องด้วยจะถึงคราวสิ้นสุดแห่งอายุ

ได้ดิ้นรนมีประการต่างๆ ไม่มีใครจะช่วยให้ความเดือดร้อนนั้นระงับไปได้ ในที่สุดได้เข้าไปเฝ้าพระ

ผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ได้ตรัสถึงธรรมะข้อ อุณหิสสวิชยคาถา อันเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่พุทธ

บริษัทชาวไทยซึ่งเป็นบทต่ออายุนั้นเอง


วิปัสสนาให้ประโยชน์อย่างไร

   

   ประโยชน์ของการทำวิปัสสนา คือ ทำให้หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง ละความเศร้าโศก

ความร่ำไห้รำพรรณ และทำให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด คือ ละทุกข์นั้นเอง ประโยชน์ก็คือ

ทำให้ทุกข์หมดไป


   ความดีเลิศของวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิด ทำกุศลอย่างอื่นเช่น

สร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญใหญ่โต ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ไม่ว่าจะกี่วัดก็ตาม ก็ยังไม่

ประเสริฐเท่ากับการเจริญวิปัสสนา เพราะการกระทำเหล่านั้นไม่สามารถประหารกิเลสได้ คือ

ขันธ์ ๕ ส่วนการเจิรญวิปัสสนา สามารถทำลายกิเลสและเป็นเหตุให้เข้าถึงพระนิพาน จึงถือได้ว่า

การเจริญวิปัสสนาเป็นบุญสูงสุดที่หาอะไรเปรียบไม่ได้.....

ละครชีวิตจริงตอน กำแพงกรรม





ช่อง  Miracle Channel

เกี่ยวกับเรา



          ปัจจุบันนี้คนเราศีลธรรมน้อยลงทุกวัน กับเพิ่มพูลกิเลสมากขึ้นไปทุกที ทำให้ชีวิตมีปัญหา....

จึงทำเกิดบล็อก sinlatham ขึ้นเพื่อที่จะช่วยให้ข้อคิดกับสังคมปัจจุบันอีกแรงหนึ่งด้วยเนื่อหาสาระที่มี

คุณค่าที่หาประมาณไม่ได้จาก ครูบาอาจารย์ หลายท่าน พร้อมกับเนื่อหา กฎแห่งกรรม ทั้งนี้หวังว่า

บล๊อกนี้คงจะมีประโยชน์กับทุกท่านพอสมควรครับ



นัฐพงศ์ จิรันดร

Webmaster 

พิสูจน์ไม่ถูกทาง ก็ไกลห่างความจริง



ผู้ที่ถามถึงโลกหน้าว่ามีจริงไหม

ก็เหมือนกับถามว่า วันพรุ่งนี้มีจริงไหม

คำตอบก็คือ พรุ่งนี้มีจริง

แต่ครั้นจะให้หยิบเอาวันพรุ่งนี้มาแสดงให้ดูต่อหน้าวันนี้

มันก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นที่เหลือวิสัย


   เรื่อง นรก สวรรค์ จึงเป็นเรื่องที่ยากแก่การพิสูจน์ คนที่เชื่อว่ามีจริง ก็หาอะไรมาพิสูจน์ให้คนที่ไม่เชื่อ

ให้เชื่อได้ว่ามีจริง ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็เช่นเดียวกัน ไม่มีหลักฐานมายืนยันให้คนที่เชื่อเห็นได้ว่ามี

   ดังนั้น เรื่อง นรก สวรรค์ จึงยังเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ และยิ่งถ้าหากพิสูจน์ที่ผิดๆ 

หลงเชื่อผิดๆ ก็ยิ่งจะทำให้หลงทาง และได้รับคำตอบผิด อย่างที่พระยาปายาสิ พยายามพิสูจน์ทดลอง

จนเกิดความเชื่อมันว่าโลกหน้าไม่มี คนตายแล้วไม่เกิดอีก ต่อเมื่อได้รับคำชี้แจงจากพระมหากุมาร

กัสปะเถระ จนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว จึงได้เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่




หลวงพ่อชา สุภัทโท    

วัดหน่องป่าพง อุบลราชธานี

โลกหลังความตายมีจริงไหม




คำถามนี้ทุกคนคงเคยได้ยินมานับไม่ถ้วนว่ามันมีจริงหรือไม่ ? บ้างก็บอกว่ามี บ้างก็บอกว่าไม่มีหรอก ถ้ามีจริง เอามาให้ดูหน่อยสิ  ความจริงมันก็พิสูจน์ได้นะครับ ว่ามีหรือไม่ โดยมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี 

1. ฝึกสมาธิ

2. ตาย  


ก็อยู่ที่ว่าท่านจะเลือกแบบไหน ถ้าเลือกแบบที่แรก เมื่อพบเห็นแล้วสามารถ กลับตัวเป็นคนใหม่ได้  แต่ถ้าเลือกแบบ 2 เห็นแน่นอน แต่หมดโอกาสที่จะกลับตัว แต่บางคนบอกว่าไม่อยากฝึกทั้งสมาธิ และทั้งตาย....  อันนี้ก็ได้ครับ ผมจะขอยกเรื่องราวของ พระยาปายาสิ ถาม พระมหากุมารกัสสปเถระ ว่าท่านจะมีคำตอบกับเรื่องนี้ยังไร  โดยให้ชื่อตอนว่า พระยาปายาสิพิสูจน์โลกหลังความตาย


เรื่องมีอยู่ว่า สมัยหนึ่ง พระมหากุมารกัสปะเถระ มาพร้อมด้วยหมู่ภิกษุจำนวน 500 รูป เดินทางไปเมืองเสตัพยนคร มีพระยาปายาสิเป็นผู้ดูแลเมือง เมื่อพระยาท่านรู้ว่า พระกุมารกัสสปะเถระ เดินทางมาถึงเมืองของท่าน ก็ตั้งใจที่จะมาสนทนาสอบถามเรื่องโลกหน้ามีจริงหรือไม่ จึงได้เดินทางมาสอบถามท่าน ตอนนี้จะเป็นตอนสนทนาระหว่างท่านทั้งสอง โดยจะนำมาให้ฟังบางตอนเนื่องจากการสนทนานั้นยาวมาก